ข่าวพิเศษเกี่ยวกับโควิด-19


Jul 15, 2020

ข่าวพิเศษเกี่ยวกับโควิด-19

ทีมพัฒนาวัคซีนสามารถจัดการแก้ปัญหาการกลายพันธุ์ของไวรัสโคโรนาได้

แนนดินิ ปราบาห์การ์ (Nandini Prabhakar) นักวิทยาศาสตร์ด้านกระบวนการชีวภาพระดับอาวุโสของบริษัทเอสโค เอสเทอร์ หรือ Esco Aster (การพัฒนาวัคซีน) ผู้ที่ยืนอยู่ข้างเครื่องปฏิกรณ์ชีวภาพที่ใช้ในการเพาะเชื้อวัคซีนอยู่ซึ่งกำลังทำงานร่วมกับบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของสหรัฐอเมริกา

ทีมนักวิจัยในพื้นที่กำลังทำงานกับวัคซีนโควิด-19 ที่สามารถแก้ไขได้ภายในสามสัปดาห์เพื่อจัดการกับไวรัส Sars-CoV-2 ในกรณีที่มีการกลายพันธุ์ และพวกเขาหวังว่าสามารถทำการทดลองในมนุษย์ได้ภายในหกเดือน

ที่เพาะเชื้อของ Esco Aster กำลังพัฒนาวัคซีนกับบริษัทวิวัลดิ ไบโอไซเอนซ์ หรือ Vivaldi Biosciences ซึ่งเป็นบริษัท เทคโนโลยีชีวภาพในสหรัฐอเมริกาโดยทำการแตะวัคซีนลูกผสมซึ่งเกิดจากการรวมตัวกันของโปรตีนจากไวรัสสายพันธุ์ต่างๆเข้าด้วยกัน

อยู่ในระหว่างดำเนินการวัคซีน และปัจจุบันมีชื่อว่า Esco Aster DeltaCov ที่ "สร้าง" โดยการจับกับแอนติเจนจากไวรัส Sars-CoV-2 ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคโควิด-19 กับโปรตีน "แกน" จากไวรัสไข้หวัดใหญ่

แอนติเจนคือโมเลกุลที่สามารถกระตุ้นการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน

"อันที่จริงแล้วไวรัสต้องการซ่อนตัวและไม่เป็นที่จดจำ ดังนั้นพวกเขาต้องการหลบเลี่ยงระบบภูมิคุ้มกัน และไม่ทำให้เกิดการตอบสนองใด ๆ

"ด้วยการมีแกนนี้ ... เราสามารถกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันเพื่อให้รู้ว่ามีไวรัสตัวใหม่และสร้างแอนติบอดีที่จำเป็นต่อการฆ่าเชื้อนั้น "หลิน เซียงเหลียง (Lin Xiangliang) หัวหน้าผู้บริหารของ Esco Aster ได้กล่าวกับเดอะสเตรตส์ไทมส์ (The Straits Times)ไว้

Esco Aster มีห้องปฏิบัติการในอาเยอร์ ราจาห์ เครสเซนต์ (Ayer Rajah Crescent) ที่ให้บริการพัฒนารักษาโรคด้วยวัคซีน เซลล์และยีน รวมถึงบริการอุตสาหกรรมการผลิตทางชีวภาพ

งานวิจัยเกี่ยวกับแกนไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้เริ่มต้นขึ้นในปีพ.ศ. 2542 โดยดร. โธมัส มุสเตอร์ (Dr. Thomas Muster) ซึ่งในปัจจุบันดำรงตำแหน่งหัวหน้าเจ้าหน้าที่วิทยาศาสตร์ของ Vivaldi Biosciences

มีการนำไปใช้ในการสร้างวัคซีน และผู้สมัครรับวัคซีนสำหรับโรคติดเชื้อหลายโรคตั้งแต่นั้นมา รวมถึงไข้หวัดใหญ่หลายสายพันธุ์และโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง หรือ ซาร์ (Sars) และไวรัสโคโรนาด้วยเช่นกัน

นายหลินได้เข้าพบกับ Vivaldi Biosciences หลังจากพบเคสโควิด-19 ในสิงคโปร์ครั้งแรกเมื่อวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา

Esco Aster ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ทางชีวภาพชั้นนำของกลุ่มบริษัท Esco ที่กำลังทำงานเพื่อหาลำดับแอนติเจนที่ถูกต้องเพื่อใส่เข้าไปในแกนและขยายการผลิตของแกนนั้น

นายหลินกล่าวว่าบริษัทสามารถทำงานทั้งสองอย่างได้โดยการใช้เครื่องปฏิกรณ์ชีวภาพแบบพิเศษที่เคยช่วยพัฒนาในการเพาะเซลล์และไวรัสในสภาวะจำลองของปอดมนุษย์

เขาเสริมว่า Esco Aster จะผลิตวัคซีนจำนวนมากเมื่อพร้อม และจะสามารถเพิ่มการผลิตได้อย่างรวดเร็วหากมีความจำเป็น

ในขณะเดียวกัน Vivaldi Biosciences ซึ่งเป็นผู้พัฒนาวัคซีนไข้หวัดใหญ่กำลังดำเนินกระบวนการที่จำเป็นในการเชื่อมแอนติเจน Sars-CoV-2 กับโปรตีนแกน หรือที่เรียกว่ารีเวอร์สเจเนติกส์ (reverse genetics)

ดร.แนนดินิ ปราบาห์การ์ นักวิทยาศาสตร์ด้านกระบวนการชีวภาพระดับอาวุโสของบริษัท Esco Aster ได้กล่าวว่าการใช้แกนช่วยให้บริษัทเร่งการพัฒนาวัคซีนเนื่องจากแกนได้มีการสร้างขึ้นอย่างปลอดภัยแล้ว

สิ่งนี้จะช่วยให้บริษัทสามารถผลิตวัคซีนใหม่ได้ภายในสองถึงสามสัปดาห์หาก SarsCoV-2 กลายพันธุ์ เนื่องจากเป็นเพียงการ "สลับ" แอนติเจนของไวรัสในปัจจุบันกับไวรัสสายพันธุ์ใหม่

เมื่อพร้อมแล้ว วัคซีนสามารถเข้าสู่ร่างกายของผู้ป่วยผ่านทางสเปรย์จมูก ซึ่งเลียนแบบธรรมชาติของส่วนประกอบไวรัสที่ทำให้คนติดเชื้อ

แอนติเจน Sars-CoV-2 จะตรวจพบโดยระบบภูมิคุ้มกันซึ่งจะกระตุ้นเซลล์เม็ดเลือดขาวผลิตแอนติบอดีเพื่อต่อสู้กับเชื้อโรคและเรียนรู้ที่จะ "จดจำ" ไวรัสเพื่อให้ร่างกายสามารถต่อสู้ได้ในอนาคต

ดร.แนนดินิ ได้กล่าวว่าทีมของเธอมีเป้าหมายที่จะเริ่มการทดสอบในสัตว์อีกประมาณสองถึงสามเดือน และหวังว่าจะได้วัคซีนซึ่งจะดำเนินการกับไวรัสไข้หวัดใหญ่ด้วยเช่นกัน และพร้อมสำหรับทำการศึกษาในมนุษย์ภายในหกเดือนข้างหน้า

Source: https://www.straitstimes.com/singapore/health/team-developing-vaccine-that-can-tackle-virus-mutations-as-well